“ฝ้า” และ “กระ” แตกต่างกันอย่างไร พร้อม 4 วิธีรักษาฝ้า กระ ให้หายขาด

“ฝ้า” และ “กระ” แตกต่างกันอย่างไร พร้อม 4 วิธีรักษาฝ้า กระ ให้หายขาด

      ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ปัญหาผิวก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ทั้งริ้วรอยร่องลึก ผิวแห้งเสียหยาบกร้าน โดยเฉพาะปัญหาผิวที่คอยกวนใจสาวๆทุกคนอย่าง “ฝ้า” “กระ” ที่นับวันมีแต่จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น มองไปที่จุดไหนบนใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยดำ รอยด่าง สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ จนเริ่มสูญเสียความมั่นใจ พยายามหาวิธีมากมายเพื่อรักษาให้หายดี แต่หลายๆครั้งก็ไม่เห็นผลสักทีเพราะไม่รู้ว่าปัญหาผิวที่เจออยู่คืออะไร? เป็นฝ้า หรือเป็นกระกันแน่? บทความนี้รวมวิธีสังเกตปัญหาผิว แบบไหนคือฝ้า แบบไหนคือกระ พร้อม 4 วิธีรักษาให้ปัญหาเหล่านี้ดูดีขึ้นมาฝากกันแล้วค่ะ

“ฝ้า” และ “กระ” แตกต่างกันอย่างไร?
      หลายๆครั้งที่เราเริ่มสังเกตเห็นรอยดำที่เป็นปื้นขนาดใหญ่หรือรอยดำที่มีขนาดเล็กๆกระจายไปทั่วใบหน้า แต่ก็แยกไม่ออกว่าปัญหาเหล่านั้นคืออะไร เพราะดูๆไปแล้วแต่ละจุดก็คล้ายกันไปหมด เราสามารถแยกฝ้าและกระออกจากกันง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
      ฝ้า (Melasma) จะเป็นรอยคล้ำบนผิวหน้า ที่มีลักษณะเป็นแผ่นๆ ปื้นๆ กระจายไปทั่วทั้งใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม คางและหน้าผาก มีหลายขนาด หลายรูปร่างและมีหลายสี โดยอาจจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ สีเทาเข้มหรือสีดำ โดยฝ้าสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับระดับความลึกของฝ้า
     - ฝ้าแบบตื้น เป็นฝ้าที่เกิดในผิวชั้นนอกสุด เป็นรอยปื้นสีน้ำตาล มีขอบชัดเจน
     - ฝ้าแบบลึก เป็นฝ้าที่เกิดขึ้นในชั้นหนังแท้ ส่วนใหญ่จะมีสีน้ำตาลอ่อน สีเทา แยกจากสีผิวได้ค่อนข้างยาก โยฝ้าแบบลึกจัดการได้ยากกว่าฝ้าแบบตื้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องเข้ารับหัตถการเพื่อกำจัดฝ้าแบบลึก เช่น การทำเลเซอร์ลดฝ้า หรือการฉีดเมโสหน้าใส

      กระ (Freckles) เป็นจุดสีดำที่กระจายไปทั่วใบหน้าและส่วนต่างๆของร่างกาย โดยกระบนผิวหน้าจะพบได้มากในบริเวณสันจมูกและโหนกแก้ม มีลักษณะเป็นจุดกลมๆ ขนาดเล็ก มีสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม มีขอบที่ชัดเจน โดยกระสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
     - กระแบบตื้น เป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลเข้ม มีขนาดค่อนข้างเล็ก เป็นกระที่เกิดบนผิวชั้นนอกสุด สาเหตุของการเกิดกระแบบตื้นนั้นมาจากการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ในชั้นผิว
     - กระแบบลึก เป็นปัญหากระที่เกิดในชั้นหนังแท้ มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆหรือเป็นแผ่นสีน้ำตาลเข้มหรือเทา มองเห็นขอบไม่ชัดเจน มีลักษณะคล้ายฝ้า มักพบบริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง สันจมูกและบริเวณขมับ
     - กระเนื้อ เป็นปัญหากระที่เกิดขึ้นจากการส่งต่อทางพันธุกรรม กระเนื้อจะมีลักษณะเป็นแผ่นสีน้ำตาลเข้ม ยกตัวนูนออกมาจากผิว พบได้ทั่วร่างกาย ทั้งใบหน้า คอ แขน หรือต้นขา กระเนื้อสามารถรักษาให้หายไปด้วยการเลเซอร์
     - กระแดด สามารถพบได้ทั้งกระแดดแบบจุดและกระแดดแบบปื้นสีน้ำตาล เห็นขอบชัดเจน พบได้มากในบริเวณที่ผิวสัมผัสแสงแดดบ่อยๆ เช่น โหนกแก้ม สันจมูก หลังมือหรือหลังเท้า กระแดดเป็นกระที่เกิดจากผิวถูกทำร้ายจากรังสี UV ในแสงแดดเป็นเวลานาน พบได้มากในคนที่มีผิวขาว

ฝ้า กระ เกิดจากสาเหตุอะไร
         ปัญหาผิวอย่างฝ้าและกระ เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้
1. ความผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน (Melanin) เพราะผิวถูกทำร้ายจากรังสี UV ในแสงแดดเป็นเวลา เซลล์ผิวจึงผลิตเม็ดสีเมลานินออกมากเกินไป จนทำให้เกิดเป็นแผ่นสีน้ำตาล (ฝ้า) หรือเกิดเป็นจุดเล็กๆสีน้ำตาล (กระ) ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนบนชั้นผิว นอกไปจากผิวถูกทำร้ายโดยแสงแดดแล้วนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติได้เช่นเดียวกัน เช่น การถ่ายทอดทางพันธุกรรมและอายุที่เพิ่มมากขึ้น
2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ อย่างฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (progesterone) ที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้ที่พบปัญหาฝ้า กระได้บ่อย คือ ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้หญิงที่ทานยาคุมกำเนิด
3. การใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่ไม่ปลอดภัย เราอาจจะเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารอันตราย อย่างสารปรอท ไฮโดรควิโนนหรือสารสเตียรอยด์ เมื่อเราใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารอันตรายเหล่านี้ จะทำให้ผิวหน้าของเราเกิดอาการระคายเคือง ผิวอักเสบและไวต่อแสงแดด ทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ ได้ง่ายขึ้น
4. พฤติกรรมการทานอาหาร โดยเฉพาะการทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารฟาสต์ฟู้ด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปจนถึงการใช้สารเสพติด ที่จะทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดสารอนุมูลอิสระ (Free radical) ขึ้นจำนวนมาก เป็นต้นเหตุปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำและริ้วรอย

5. พักผ่อนไม่เพียงพอ ช่วงเวลาที่ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อน ถือเป็นช่วงเวลาทองในการซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกาย โดยร่างกายจะหลั่งสารโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมาในขณะที่เรานอนหลับ เพื่อซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกาย หากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะถูกฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ทำให้ผิวอ่อนแอ เม็ดสีเมลานินทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร ผิวจึงอาจเกิดฝ้าและกระใหม่ๆได้ง่าย

4 วิธีรักษาฝ้า กระ ให้หายขาด
      1. ปกป้องผิวด้วยการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน สาเหตุหลักที่ทำให้ผิวเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ เป็นเพราะผิวถูกทำร้ายจากรังสี UV (UVA/UVB) ในแสงแดด การทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอเป็นประจำทุกวันจึงสามารถช่วยลดการเกิดใหม่ของฝ้า กระได้เป็นอย่างดี โดยควรเลือกใช้กันแดดที่มีค่า SPF 30+ และใช้ในปริมาณที่เพียงพอ คือประมาณ 1 ช้อนชา สำหรับทาทั่วใบหน้าและลำคอ หากต้องออกแดดบ่อยๆก็ควรทากันแดดซ้ำในช่วงระหว่างวัน
      2. มาส์กหน้าด้วยสมุนไพร สมุนไพรบางชนิดมีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น หัวไชเท้า มะขามเปียก มะนาว ใบบัวบก หรือว่านหางจระเข้ เราสามารถนำสมุนไพรเหล่านี้มามาส์กหน้าเพื่อช่วยจัดการฝ้า กระและจุดด่างดำให้ดูจางลงได้
      3. ใช้หัตถการทางการแพทย์เพื่อช่วยลดเลือน ฝ้า กระ โดยเฉพาะฝ้าและกระแบบลึก หรือกระเนื้อ ที่เราอาจจัดการให้หายได้เองค่อนข้างยาก การใช้หัตถการทางการแพทย์คือตัวช่วยที่ดี เช่น การทำเลเซอร์ การทำไอออนโตรักษาฝ้า การฉีดวิตามินผิว หรือการกรอผิวด้วยการพ่นผงคริสตัล ที่จะช่วยลดปัญหาฝ้า กระ ทั้งแบบตื้นและแบบลึกให้ดูดีขึ้นได้
      4. จัดการปัญหาฝ้า กระ ฝังลึกให้หมดไปด้วย ยันฮี พรีเมียม เซรั่ม (YANHEE PREMIUM SERUM) และยันฮี พรีเมียม เมล่าครีม (YANHEE PREMIUM MELA CREAM) คู่หูจัดการปัญหาผิว ฝ้า กระและจุดด่างดำ ที่คิดค้นและพัฒนาสูตรโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลยันฮี ด้วยส่วนผสมจากสารสกัดสุดพรีเมียม
      - TRANEXAMIC ACID ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว ปรับผิวให้กระจ่างใส
      - สารสกัดชะเอม ช่วยยับยั้งการทำงานของเอมไซน์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ลดการสร้างเม็ดสีผิว
      - วิตามินบี 3 ช่วยลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ช่วยลดอาการผิวอักเสบ ปรับผิวให้แข็งแรง
      - สารสกัดว่านหางจระเข้ บรรเทาอาการระคายเคือง พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า
         สู่ผลลัพธ์ของผิวหน้าที่เนียนใส ไร้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำคอยกวนใจ ช่วยปรับผิวหน้าให้กลับมาเนียนนุ่ม เต่งตึง แลดูสุขภาพดียิ่งกว่าที่เคย
         ปัญหาฝ้า กระ ปัญหาผิวกวนใจที่มีสาเหตุเพราะผิวถูกทำร้ายจากหลายปัจจัย ทั้งรังสี UV ในแสงแดด มลภาวะ ฝุ่นควัน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ รวมไปจนถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารทำร้ายสุขภาพ จัดการกับปัญหาผิว ลดเลือนฝ้า กระ ได้อย่างปลอดภัยและเห็นผลด้วยการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเลือกใช้สกินแคร์ดูแลผิวที่มีส่วนช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำอย่าง ยันฮี พรีเมียม เซรั่ม (YANHEE PREMIUM SERUM) และยันฮี พรีเมียม เมล่าครีม (YANHEE PREMIUM MELA CREAM) เป็นประจำทุกวัน เพียงเท่านี้ใบหน้าที่กระจ่างใส ห่างไกลฝ้า กระและจุดด่างดำก็จะเป็นของเราอย่างแน่นอน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้